Hello! (Thailand)

ม.ล.รดีเทพ เทวกุล

-

กระทรวงการ­ต่างประเทศมา­ก เพราะครอบค­รัวเรา ผูกพันกับกระทรวงกา­รต่างประเทศมา­สามเจเนอเร­ชั่น แล้ว ตั้งแต่ท่านทวด (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรม พระยาเทวะว­งศ์วโรปการ) ท่านปู่ (หม่อมเจ้าวงศานุ วัตร เทวกุล) และคุณพ่อ (หม่อมราชวงศ์ เทพกมล เทวกุล) มาหายไปตอน­เจนมุก คุณแม่จึงวาดฝันอยาก ให้หลานชายเข้ากระทรวงกา­รต่างประเทศ แต่แม็บบอกเขายังไม่รู้ ต้องลองดู มุกก็รอลุ้นอยู่ค่ะ” คุณมุกพูดพลางหัวเราะ

ทางเลือกของลูกสาวอีกสองคน

นอกจากนี้คุณนุกลูกสาวคนโตแล­ะคุณมิ้ม-สุนิภา บุรณศิริ ลูกสาวคนรองข­องคุณมุกก็ได้รับผลกระทบ จากโควิด-19 ด้วยเช่นกัน

“บังเอิญโชคดีที่นุกจบปริญญาตรีทางด้าน English & Psychology จาก Georgetown University แล้ว แต่ เป็นรุ่นที่ไม่มีพิธีรับปริญญา แล้วในช่วงกักตัวเขาก็หา งานไปด้วย ไม่ทันไรก็ได้งานเป็น Management Trainee ใน Program ‘Unilever Future Leadership Program’ (UFLP) ที่ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่เขา เปิดรับเด็กที่จบตรีพอดีค่ะ มีคนสมัครตั้ง 1,571 คน แต่ เขารับแค่ 11 เท่านั้นเอง

“ส่วนมิ้มคนกลางเคย­เป็นคนเดียวในครอบครัวที่ ไม่อยากไปโรงเ­รียนประจำที่เมืองนอก ก็เลยเรียนที่ Bangkok Patana School จนจบ เพราะเขาแฮ­ปปี้มากกับ โรงเรียน คนนี้เข้า Boston University ได้แต่เนื่องจากที่ บอสตันหนาวมาก เขาเลยย้ายไปเรียน Global Health ที่ University of Southern California แทน อีกเทอมเดียวก็ จะจบแล้วค่ะ ตอนนี้เขาอยู่เมืองไทย

“รายนี้มีปัญหาตรงที่เขาอยากกลับไปเรียนที่นั่น แต่ กลบั ไมไ่ ด้ ทางมหาวทิ ยาลยั กอ็ อฟเฟอรใ์ หเ้ รยี นออนไลน์ จนจบได้เลย เขาก็เลยกำลังคิดหนักอยู่ว่าจะทำยังไงดี เพราะใจอยา­กกลับไป แต่ถ้ากลับไปก็ไม่รู้ว่าจะกลับมา ไดห้ รอื เปลา่ เพราะสถานก­ารณท์ อ่ี เมรกิ าตอนนค้ี อ่ นขา้ ง น่ากลัว เขาก็เลยสองจิตสองใจว่าจะดร็อปไหม แล้วรอ ให้โควิดหายค่อยกลับไปเรียนส่วนที่เหลือ เขาเสียใจแต่ ทำไงได้ การเรียนให้จบและหางาน­ที่เมืองไทยอาจเป็น ทางเลือกที่ดีที่สุด แล้วพอสถานการ­ณ์ทุกอย่างดีขึ้น อยากกลับไปเรียนโทต่อก็ค่อยว่ากัน”

เจ้าของแบรนด์หรู LVMH

ได้รับการขนานนา­มว่าเป็นหนึ่งใน ‘ผู้สร้างรสนิยม’ (taste-maker) ได้มากที่สุดคนหนึ่งในวงการแฟ­ชั่น อภิมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลกประจ­ำปี 2020 จากการ จดั อนั ดบั โดย Forbes แบรน์ ารด์ อารโ์ นลต์ เปน็ ทร่ี จู้ กั ใน บทบาทเจ้าของ LVMH จักรวาลแห่งสินค้าแบรนด์เนม รายใหญ่ที่สุดของโลก หลายคนอาจไ­ม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว เจ้าพ่อแบรนด์เนมอย่างเขาเรียนจบด้านวิศวกรรมโยธา จาก École Polytechni­que ที่มีชื่อเรียกกันเล่นๆ ว่า X เป็นหนึ่งในสถาบันของยุโรปที่สอบเข้ายากและจบย­าก แหง่ หนง่ึ โดยมชี อ่ื เสยี งดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป็นอย่างมากในระดับนานาชาติ ปัจจุบันอยู่ในอันดับ ที่ 93 ของโลกจากก­ารจัดอันดับของ Times Higher Education โดยแบร์นาร์ดเริ่มต้นอาชีพแรกในฐานะ วิศวกรโยธาตา­มที่ได้ร่ำเรียนมาในบริษัทก่อสร้างของ พ่อตัวเอง ก่อนจะเจอจุดเปลี่ยนในชีวิต เมื่อตัดสินใจ เข้าซื้อบริษัทโฮลดิ้งที่ชื่อ Financière Agache ซึ่งดำเนิน ธุรกิจสินค้าหรูด้วยวิธีการบริหาร ความคิดสร้างสรรค์ และวิสัยทัศน์ของเขาทำให้บริษัทเติบโตและทำรา­ยได้ อย่างงดงาม

มหาเศรษฐีระดับโลกชาวจีน เจ้าของธุรกิจ ฟาร์มหมู

ใครจะไปเชื่อว่าเลี้ยงหมูก็รวยระดับโลกได้ แต่เพราะ ทน่ี ค่ี อื ประเทศจนี ซง่ึ เปน็ ประเทศทบ่ี รโิ ภคเนอ้ื หมรู ายใหญ่ ที่สุดของโลก และ ฉิน อิงหลิน ก็เป็นผู้ผสมพันธุ์สุกร ที่รวยที่สุดในโลกเช่นกัน โดยเขาเริ่มต้นธุรกิจจากหมู เพียง 22 ตัวในปี 1992 ก่อนจะตัดสินใจตั้งบริษัท Muyuan Farming พร้อมกับลงทุนขยายฟาร์ม เพื่อให้ เพียงพอกับการบริโภคที่มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่กิจการ จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจนสามารถ­เข้าจดทะเบียนใน ตลาดหุ้นได้ ภายใต้ชื่อบริษัท Muyuan Foods ที่ทำ ธุรกิจเกี่ยวกับหมูแบบครบวงจร พอเข้าตลาดหุ้นได้ก็ยิ่ง มีเงินไปลงทุนขยายกิจการ สร้างรายได้ที่มากขึ้นกว่า เดิม ช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ยิ่งทำให้อาหาร กลายเป็นสิ่งจำเป็น เร่งผลักดันราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้น ไปอีก จึงไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหม­ายหากตำแหน่ง อภิมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของจีนจะเป็นของเจ้าของธุรกิจ ฟาร์มหมูที่ชื่อฉิน อิงหลินคนนี้ และยิ่งไม่น่าแปลกใจ เมื่อได้รู้ว่าทั้งเขาและภรร­ยาเป็นมหาเศรษฐีระดับพัน ล้านด้วยเช่นกัน ทั้งคู่เรียนจบสาขาสัตวบาล จาก Henan Agricultur­al University ซง่ึ เปน็ มหาวทิ ยาลยั ทเ่ี กา่ แก่ ที่สุดในเมืองเจิ้งโจว ก่อตั้งขึ้นในปี 1912 โดยสาขาที่ มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยก็คือสัตวแพทย์นั่นเอง

ผู้ร่วมก่อตั้ง Nike

เขาคือเศรษฐีพันล้านที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตนเอง (self-made billionair­e) จากการสร้างแบรนด์กีฬา Nike จนกลายเป็นแบรนด์กีฬาอันดับ 1 ของโลก พร้อมด้วย โลโก้เท่ๆ รูปตัวอักษรเช็กถูก หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า Swoosh ย้อนกลับไปสมัยเรียนปริญญาตรีด้าน วารสารศาสต­ร์ที่ University of Oregon ซึ่งเป็น มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมอันดับ 292 จากการจัดอันดับ US College Rankings 2020 โดย Times Higher Education ฟิล ไนต์ เป็นนักกีฬาวิ่งและเป็นนักข่าวกีฬา ของหนังสือพิมพ์ของมหาวิทยาลัยอย่าง Oregon Daily Emerald ที่นี่เขาได้รู้จักกับ บิล บาวเออร์แมน โค้ชกรีฑา ของมหาวิทยาลัย ซึ่งภายหลังมาร่วมเป็นหุ้นส่วนบริษัท กับเขา หลังจากนั้นก็เข้าเรียนปริญญาโทด้านธุรกิจที่ Stanford University มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 4 ของ โลก ประจำปี 2020 ทำใหเ้ ขาคน้ พบวา่ อยากทำธรุ กจิ ของ ตัวเอง ด้วยความชอบใ­นการวิ่ง และรู้สึกว่ารองเท้ากีฬา ชื่อดังในตอนนั้นยังตอบสนองเข­าได้ไม่ดีพอ จึงอยากจะ ทำรองเท้ากีฬาที่ดีกว่าขึ้นมาขาย โดยฟิลได้ชวนบิลมา ร่วมกันก่อตั้งบริษัทนำเข้ารองเท้าอย่าง Blue Ribbon Sports ขึ้น ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Nike อย่างที่เรา รู้จักกัน

นักธุรกิจผู้สร้างนวัตกรรมระดับโลก เจ้าของ Tesla และ Spacex

นกั ธรุ กจิ ไฮเทคฉายา Iron Man อลี อน มสั ก์ เกดิ ในตระกลู ที่ร่ำรวย เขาใช้ชีวิตวัยเด็กขลุกตัวอยู่กับคอมพิวเตอร์และ เรยี นรกู้ ารเขยี นโปรแกรมดว้ ยตวั เอง จนสามารถเข­ยี นโคด้ วิดีโอเกมขายได้ตั้งแต่อายุ 12 ปี แรงบันดาลใจสำคัญที่ ทำให้อีลอนสนใจเรื่องเทคโนโลยีมาจากการที่มีพ่อเป็น วศิ วกรนน่ั เอง ดา้ นนสิ ยั สว่ นตวั เขาเปน็ คนชอบเกบ็ ตวั และ เป็นหนอนหนังสือตัวยง เขาอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า จดุ เปลย่ี นสำคญั ในชวี ติ ของอลี อนมาจากการ­ทเ่ี ขาไดอ้ า่ น หนังสือ ‘The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy’ ที่เล่าเรื่องราวของกา­รท่องอวกาศ จนจุดประกายให้เขา ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตเพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติ เขาเรียน ระดับปริญญาตรีและจบสองปริญญาในสาขาฟิสิกส์และ สาขาเศรษฐศ­าสตร์ ท่ี University of Pennsylvan­ia ซง่ึ มผี ล การวิจัยในปี 2014 ระบุว่าเป็นสถาบันที่มีศิษย์เก่าเป็น เศรษฐีพันล้านมากที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านั้นได้เข้า เรียนที่ Queen’s University ในแคนาดา ก่อนจะย้ายมา เรยี นทส่ี หรฐั อเมรกิ าเพราะไดท้ นุ ทน่ี น่ั เขาเคยศกึ ษาตอ่ ถงึ ระดับปริญญาเอกในสา­ขาฟิสิกส์ประยุกต์ที่ Stanford University แต่ก็ต้องตัดสินใจเลิกเรียนกลางคัน เพื่อออก มาสรา้ งธรุ กจิ ของตวั เอง

เควิน ซิสตรอม ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Instagram

Instagram แอปพลิเคชั่นถ่ายรูปอันดับ 1 ของโลก เกิดจากแพสชั่นของ เควิน ซิสตรอม ที่มุ่งมั่นจะสร้าง โปรดักต์สักตัวให้ประสบความส­ำเร็จ ในวัยเด็กเขาได้ แรงบันดาลใจในกา­รเขียนโปรแกรมค­อมพิวเตอร์จาก การเล่นเกม Doom 2 เมื่ออายุได้ 12 ขวบ และเลือก เรียนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในระดับมัธยมศึกษา แทนที่จะเรียนชีววิทยา ส่วนในระดับมหาวิทยาลัยนั้น ด้วยความหลงใ­หลในคอมพิวเตอร์ เป้าหมายในการ­เข้า มหาวิทยาลัยของเขาอยู่ที่ Stanford University ซึ่งมี คอนเน็กชั่นกับบริษัทไอทีชื่อดังในซิลิคอนวัลเลย์ และ เป็นมหาวิทยาลัยระดับท็อปที่อยู่ในกลุ่ม HYPSMC ซึ่ง หมายถึงกลุ่มมหาวิทยาลัยที่สมัครเข้าเรียนยาก (Harvard, Yale, Princeton, Stanford, MIT, Caltech) โดย เลือกเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพราะอยากเ­ป็น วิศวกรซอฟต์แวร์ แต่ก็ต้องล้มเหลวเพราะ­ได้เกรดไม่ดี จึงเปลี่ยนสายไปเรียนสาขาวิศวกรรมและวิทยาการ จัดการแทน ที่นี่เขาได้พบกับไมค์ ครีเจอร์ และร่วมกัน พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า Burbn ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Instagram ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก

ภรรยาหม้าย สตีฟ จ็อบส์ อัจฉริยะผู้อยู่เบื้องหลัง Apple

แม้ สตีฟ จ็อบส์ จะลาโลกนี้ไปหลายปีแล้ว แต่ก็ทิ้งทรัพย์สมบัติ จำนวนมหาศา­ลไว้ให้ภรรยาหม้าย ลอรีน พาวเวลล์ จ็อบส์ จนเธอ ติดอันดับมหาเศรษฐินีระดับโลก เธอคนนี้ยึดมั่นในการสนับสนุน และส่งเสริมการศึกษาของเยาว­ชนมาตลอด ปัจจุบันรับตำแหน่ง เป็นกรรมการอง­ค์กรการกุศลและองค์กรประจำชุมชนอื่นๆ หลาย แห่ง ลอรีนผ่านการศึกษาในสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก โดย เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสองใบด้านรัฐศาสตร์จาก University of Pennsylvan­ia หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Upenn หรือ Penn เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่อันดับ 4 ของประเทศ และเป็นหนึ่ง ใน 8 มหาวิทยาลัยกลุ่มไอวีลีก ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้า ของสหรัฐอเมริกาทั้งสิ้น และด้านเศรษฐศาส­ตร์จาก Wharton School of the University of Pennsylvan­ia โรงเรียนธุรกิจชั้นนำของ โลก ก่อนเข้าศึกษาระดับปริญญาโทใน School of Business ที่ Stanford University ซึ่งระหว่างเป็นนักศึกษาอยู่ที่นี่นั่นเอง ทำให้เธอ ได้รู้จักกับสตีฟ จ็อบส์ ซึ่งเคยรับเชิญมาบรรยายใ­นมหาวิทยาลัย แห่งนี้ และลอรีนมาเข้าชั้นเรียนสายมากจน­ไม่เหลือที่นั่งสำหรับ นักศึกษา เจ้าหน้าที่จึงบอกให้เธอไปนั่งบนเก้าอี้ที่สำรองไว้สำหรับ ผู้บรรยาย และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ใน เวลาต่อมา

หลักสูตร BASIS นับเป็นสุดยอดแห่งการรวมองค์ ความรดู้ า้ นวชิ าการ การคดิ เชงิ วพิ ากษ์ และการแกป้ ญั หา อย่างสร้างสรรค์ โดยผสมผสาน­แนวทางจากร­ะบบการ ศึกษาชั้นนำของโลก เช่น สหรัฐฯ ฟินแลนด์ สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ ฯลฯ จนนำมาซึ่งระบบการศึกษาที่ดีที่สุด โปรแกรมหนึ่งของโลก ทั้งยังวัดผลด้วย Advanced Placement Examinatio­ns (AP) หรือการสอบเตรียมความ พร้อมเพื่อเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ยอมรับ อยา่ งยง่ิ ในระดบั สากล

สิ่งหนึ่งที่วิทยาเขต 39 แห่ง ภายใต้หลักสูตร BASIS

ยึดถือเฉกเช่นเดียวกันทั่วโลกก็คือ ‘วัฒนธรรมแห่งความ เปน็ เลศิ ’ อนั เกดิ จาก 3 แกนหลกั ไดแ้ ก่ 1.หลกั สตู รทม่ี งุ่ ให้ ความรู้อย่างสูงสุดในระดับนานาชาติ 2.ครูผู้มีใจรักใน วิชาชีพและเชื่อมั่นในการก้าวสู่ความเป็นเลิศของนักเรียน 3.วัฒนธรรมการเ­รียนรู้อันเปี่ยมสุข ซึ่งให้คุณค่ากับความ ขยนั และความกระ­ตอื รอื รน้

“โรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ ให้ความสำคัญ กับการสร้างทักษะพื้นฐานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ เด็กเล็กตั้งแต่ Grade 4 ลงไป เราใช้การสอนแบบ Two Teachers Model โดยใหแ้ ตล่ ะคลาสนำโดย ครผู เู้ ชย่ี วชาญ เฉพาะรายวิชา (Subject Expert Teacher – SET) และครูผู้ เชี่ยวชาญด้านการพฤติกรรมการเรียนรู้ (Learning Expert Teacher – LET)” Elizabeth Thies ในฐานะ Founding Head of School ให้ความกระจ่างถึงหลักสูตรอันเป็นเอกลักษณ์ ของเบซิส ที่แข็งแกร่งทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจาก ความสามารถ­ของทมี ผสู้ อนทง้ั สองสว่ น

“ในปีแรกๆ เราเน้นปลูกฝังให้เด็กๆ สนุกและรักการ เรียนรู้ จึงไม่ได้วางแผนเพียงแค่ ครูจะสอน ‘อะไร’ แต่ ครูต้องสอน ‘อย่างไร’ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วม ในกระบวนกา­รเรียนรู้ให้มากที่สุด เราไม่ได้เป็นเพียง แฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ แต่เราเป็นโรงเรียนเครือข่าย ที่ ไม่เพียงแค่ยึดถือหลักสูตรจากสหรัฐฯ โดยตรง แต่ดิฉัน และคณาจารย์ยังได้พัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติมร่วมกับ ทีมหลักสูตรทางสหรัฐฯ สำหรับโรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ เป็นการเฉพาะ ยกตัวอย่างที่หลายๆ ครั้ง ดิฉัน พบว่าผู้ปกครองในไท­ยมักมองหาตัวช่วยนอกโรงเรียนอยู่

เสมอ หลักสูตรของเราจึงมี Student Hours ที่พร้อมให้การ ช่วยเหลือนักเรียน ที่ติดขัดด้านการเรียน เช่น ปัญหาด้าน ภาษา ซึ่งเรายืนยันว่า โรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ มีความพร้อมในการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรโู้ ดยใช้ภาษา องั กฤษเปน็ ภาษาหลกั โดยทน่ี กั เรยี นไมต่ อ้ งพง่ึ พาตวิ เตอร์ ภายนอก”

นอกจากนี้ Elizabeth ยังตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของ โรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ ที่มุ่งพัฒนาให้นักเรียน เติบโตบนรากฐา­นความเป็นไทย เชื่อมโยงก้าวไกลใน สากล “สิ่งที่ฉันภูมิใจคือ เราเป็นโรงเรียนนานาชาติที่ให้ ความสำคัญกับภาษาและวัฒนธรรมไทย นักเรียนทุกชั้น ต้องได้เรียนภาษาไทยสัปดาห์ละ 5 วัน แน่นอนว่าไม่ใช่ การสอนแบบท­อ่ งจำ แตเ่ ปน็ การซมึ ซบั ผา่ นกจิ กรรมสนกุ ๆ เช่น ทำอาหาร สำรวจพรรณพืช แต่งบทกวี ฯลฯ เรา ต้องการให้พวกเขาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตนเองแล­ะ เห็นคุณค่าของความเป็นไทย แม้เป็นเด็กต่างชาติที่พ่อแม่ มาทำงานในไ­ทยระยะหนึ่ง แต่การเรียนร้นู ี้ย่อมส่งผลดีต่อ การมองโลกใ­นอนาคตของเ­ขาอยา่ งแนน่ อน

“ดิฉันมั่นใจว่าครูและบุคลากรของเร­ามีชั่วโมงการ ฝึกอบรมไม่น้อยกว่าที่ใด ไม่เพียงเนื้อหาที่เข้มข้นสำหรับ กระบวนการส­อนในรูปแบบของเบซิส แต่ยังรวมถึงการ เตรียมความพร้อมสำหรับ New Normal” คุณครูใหญ่ กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกภายใต้สถานการณ์ COVID-19 “เรามีตารางทำควา­มสะอาดอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ในสนามเด็กเล่นหรือพื้นผิวสระว่ายน้ำ ห้องสมุด ที่หนังสือผ่านการฆ่าเชื้อ ห้องเรียนที่มีเจลแอลกอฮอ­ล์

อา่ งลา้ งมอื ทต่ี ดิ ตง้ั ทว่ั โรงเรยี น รวมถึงการกำหนดร­ะยะห่าง ระหว่างเข้าแถวด้วยแถบสี

บนพื้น โชคดีที่เรามีพื้นที่ กว้างขวางเพียงพอสำหรับ Social Distancing โดย นักเรียนตั้งแต่ Grade 4 ลง ไป จะมีครูคอยดูแล ให้เด็กๆ ปฏิบัติตามหลัก สุขอนามัยตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ก่อนวันเปิดเทอม โรงเรียนยังได้เชิญ ผู้ปกครองเข้าร่วม BOSS Camp (BASIS Organizati­on Skills for Success) เพื่อ แนะแนวทางป­ฏิบัติที่ถูก ตอ้ งตามมาตรกา­รควบคมุ โรคแกบ่ ตุ รหลาน”

สำหรับปีการศึกษา 2563 นี้ โรงเรียนนานาชาติเบซิส กรุงเทพฯ พร้อมแล้วสำหรับการศึกษาในระดับชั้น Pre K ไปจนถึง Grade 6 ทั้งยังวางแผนขยา­ยระดับชั้นอย่าง ต่อเนื่องทุกปีจนถึง Grade 12 โดยสิ่งสำคัญที่ Elizabeth มุ่งหวัง คือการให้นักเรียนเข้าใจและเห็นคุณค่าของ วัฒนธรรมอันแตกต่าง “นี่คือผลลัพธ์ที่ควรจะเป็นของ การศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ ดิฉันอยากเห็นพวกเขา เป็นผู้นำที่เปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจ ไม่ใช่เพียงเพราะ ต้องการให้โลกนี้ดีขึ้นสำหรับตนเอง แต่ควรปรารถนา­ให้ โลกนี้ดีขึ้นสำหรับผู้อื่นด้วย หากนักเรียนของเราเติบใหญ่ ดว้ ยแนวคดิ เชน่ น้ี ดฉิ นั คดิ วา่ เราทำหนา้ ทไ่ี ดส้ ำเรจ็ แลว้ ”

 ??  ??
 ??  ?? Elizabeth Thies
Elizabeth Thies
 ??  ??
 ??  ??
 ??  ??

Newspapers in Thai

Newspapers from Thailand