เพชรอุดมชนะคะแนนปานเพชร
เพชรอุดม นครโชคชัย ชนะคะแนน ปาน เพชร ส.จ.เล็กเมืองนนท์ ในการชกเป็นคู่รอง “ศึก ขุนศึกตระกูลหยาง” ที่เวทีลุมพินี เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนผลคู่อื่น ฤทธิชัย ส.กิตติชัย ชนะ คะแนน เบนซ์สยาม ส.ท.ชัยวัฒน์, เพชรปทุม ส.สมหมาย ชนะคะแนน ปูซาน ส.ท.ชัยวัฒน์, เพชรพันล้าน เพชรสี่หมื่น ชนะคะแนน ก้องธรณี เล็ก ต.หลักสอง, มงคล ก.กัมปนาท ชนะคะแนน ก้องสยาม ต.พิทักษ์ชัย, วีระนัฐ พันธ์ยุทธภูมิ ชนะ คะแนน พันเปอร์เซ็นต์ เกียรติฟูเฟื่อง, ศิษย์รัก นครโชคชัย ชนะคะแนน เก้ายอด ศูนย์กีฬาทุ่งเตา, ฟ้ามีชัย ดาบรันสารคาม ชนะน็อก เพชรรุ่ง ส.จ.เล็กเมืองนนท์ ยก 3. ต้า” ชิงเงินรางวัล 800,000 บาท ที่สนามแบล็ค เมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจบ รอบสาม (รอบสุดท้าย) เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ปรากฏ ว่าแชมป์ตกเป็นของ “โปรทราย” พิณรัชย์ หลุ่มบุญ เรือง หลังปิดฉากรอบสุดท้ายที่ 6 อันเดอร์พาร์ จากการทำา 7 เบอร์ดี้ และเสีย 1 โบกี้ สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 204, ที่ 2 มุขรินทร์ ลาดกระโทก 7 อันเดอร์พาร์ 209, ที่ 3 ร่วม 5 อันเดอร์พาร์ 211 ดุสวีณ์ สุพิมพ์จิตร, ศรัณย์พร ลางคุลเกษตริน ส่วนแชมป์ประเภทสมัครเล่นเป็นของ ชญานิษฐ์ หวัง มหาพร 2 อันเดอร์พาร์ 214. มิ่งมูล รุ่น 56 กก. ชาย, สินธ์ุเพชร์ กรวยทอง รุ่น 56 กก.ชาย, ไตรรัตน์ บุญสุข รุ่น 69 กก.ชาย, จตุ ภูมิ ชินวงค์ รุ่น 77 กก. ชาย และศรัท สุ่มประดิษฐ รุ่น 94 กก.ชาย
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวต่อว่า กกท. ได้วาง แนวทางเกณฑ์การพิจารณาของโครงการ สปอร์ต ฮีโร่ ทั้งหมดใน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. การคัด เลือกชนิดกีฬา 2. การคัดเลือกนักกีฬา 3. การ พัฒนานักกีฬา และ 4.การติดตามประเมินผล นักกีฬา เพื่อให้การเตรียมความพร้อมของนักกีฬา สามารถก้าวขึ้นไปสร้างผลงานในระดับนานาชาติ ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ และในการเดินทางไปแข่งขัน “รี โอเกมส์” ครั้งนี้ กกท. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามผล การแข่งขัน ตลอดจนเก็บสถิติต่าง ๆ ไว้รอบด้าน เพื่อนำาข้อมูลดังกล่าวมาปรับปรุงแก้ไขเพิ่ม ศักยภาพให้นักกีฬาอย่างเหมาะสมต่อไป.
พล.ต.โอสถ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ได้มีการยื่นขออุทธรณ์ให้ระงับการจด ทะเบียน แต่จนกระทั่งวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาได้มีการ ยื่นหนังสือเพื่อขอทราบผลอุทธรณ์ไปที่ กกท. และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แต่ก็ ยังไม่มีเรื่องดังกล่าวถูกนำาเข้าไปประชุมในคณะ กรรมการบริหาร กกท. แต่อย่างใด จึงทำาให้ต้อง ชะลอการส่งมอบหน้าที่ออกไปก่อน
สำาหรับการปลอมแปลงเอกสารนั้น หาก ไม่มีการฟ้องร้องต่อศาล ก็จะกลายเป็นการละเว้น ปฏิบัติหน้าที่ และตอนนี้ก็ได้มีการนำาเรื่องฟ้องร้อง ไว้ที่ศาลแพ่งแล้ว แต่ทั้งนี้หากทาง กกท. ยังไม่มี การตรวจสอบในเรื่องทั้งหมดและไม่ได้รับความ เป็นธรรม ก็คงต้องนำาเรื่องไปฟ้องศาลปกครอง ต่อไป ขณะที่การเตรียมนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ เป็นเรื่องของคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่ง ประเทศไทย จึงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด.